กรุงเทพฯ — วัฒนธรรม Maker Movement ฟื้นตัวอย่างชัดเจนในไทย เมื่อกลุ่มผู้สร้าง (makers) รายใหม่และโครงการเชิงนวัตกรรมเพิ่มขึ้นสวนทางกับแนวโน้มชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพและบริษัทนวัตกรรมเริ่มจับตาโอกาสจากฐานผู้สร้างที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
การสำรวจเบื้องต้นที่เผยแพร่โดยสมาคมเมกเกอร์กรุงเทพ (Bangkok Makers Alliance) ระบุว่า ยอดสมาชิกผู้ใช้งานในพื้นที่ Makerspace หลัก 12 แห่งในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นราว 42% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนโครงการต้นแบบ (prototypes) ที่ได้รับการสนับสนุน ทั้งผ่านการระดมทุนภายในชุมชนและการร่วมทุนแบบเอกชน เพิ่มขึ้นประมาณ 30% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
เหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนการฟื้นตัวนี้คืองาน “Maker Revival 2025” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2025 ที่ TinkLab สาทร ซึ่งเป็นพื้นที่ Makerspace ขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ งานดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมทั้งนักศึกษา ผู้ประกอบการ และนักออกแบบกว่า 900 คน และเป็นที่จัดแสดงผลงานต้นแบบด้านอิเล็กทรอนิกส์ การแพทย์ชุมชน และการเกษตรเมือง
นางสาวกานต์ชนก สุขมั่นคง ประธานสมาคมเมกเกอร์กรุงเทพ กล่าวในที่ประชุมว่า “เรากำลังเห็นผู้คนกลับมาสร้างและพัฒนานวัตกรรมด้วยทรัพยากรที่เข้าถึงได้มากขึ้น Makerspace ในกรุงเทพกลายเป็นศูนย์กลางที่ช่วยลดอุปสรรคด้านต้นทุนและความรู้ ทำให้ไอเดียเล็ก ๆ ขยายเป็นธุรกิจได้เร็วขึ้น”
ฝั่งภาคธุรกิจ นายปริญญา จันทรา ซีอีโอของ NaviTech สตาร์ทอัพด้านการเกษตรเมือง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า บริษัทได้จับตามองผลงานจาก Makerspace ท้องถิ่นและเริ่มร่วมลงทุนใน 5 โครงการต้นแบบ ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ภายใน 18 เดือน “ตลาดกำลังมองหาการประหยัดต้นทุนและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง — กลุ่มเมกเกอร์มีบทบาทสำคัญในการทดลองอย่างรวดเร็ว”
ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายเทคโนโลยีกล่าวว่า การฟื้นตัวของ Maker Movement สอดคล้องกับแนวโน้มระดับโลกที่เกิดจากการผนึกกำลังระหว่างฮาร์ดแวร์แบบ Open Source และชุมชนออนไลน์ ตัวอย่างที่มักถูกยกขึ้นคือ Limor Fried หรือที่รู้จักในชื่อ “Ladyada” ผู้ก่อตั้ง Adafruit Industries ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำแนวคิดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์แบบเปิด (Open Source Hardware) และการออกใบอนุญาตที่ช่วยให้ชุมชนสามารถต่อยอดผลงานได้อย่างเสรี
ประเด็นด้านสิทธิ์และใบอนุญาต (Open Source Hardware license) กลายเป็นหัวข้อถกเถียงในงาน Maker Revival 2025 เช่นกัน ผู้จัดงานรายงานว่าเจ้าของผลงานหลายรายเลือกใช้รูปแบบใบอนุญาตแบบเปิดเพื่อลดอุปสรรคทางด้านการนำไปใช้ต่อ แต่ยังมีเสียงเรียกร้องให้มีแนวทางควบคุมคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ที่นำไปใช้เชิงพาณิชย์
นอกจากกรุงเทพฯ แล้วยังมีสัญญาณการฟื้นตัวในจังหวัดใหญ่บางแห่ง เช่น เชียงใหม่และชลบุรี โดยผู้จัดพื้นที่ Makerspace ท้องถิ่นรายงานความต้องการเพิ่มขึ้นทั้งการใช้เครื่องมือเวิร์กช็อป และการลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมเร่งสปีด (accelerator) ที่เน้นฮาร์ดแวร์
มุมมองทางเศรษฐกิจ — นักวิเคราะห์ระบุว่าการเติบโตของ Maker Movement อาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจรายย่อยและสร้างโอกาสในการจ้างงานระดับท้องถิ่น แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว โดยเฉพาะเมื่อภาคธุรกิจเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนเชิงกลยุทธ์กับชุมชนเมกเกอร์เพื่อนำผลงานต้นแบบสู่ตลาด
อธิบายสั้น ๆ: Maker Movement คือการรวมตัวของผู้ที่สนใจสร้าง ผลิต และพัฒนานวัตกรรมด้วยตนเอง ผ่านการใช้พื้นที่ Makerspace เครื่องมือการผลิตแบบดิจิทัล และการแลกเปลี่ยนความรู้ในชุมชน โดยมักเน้นฮาร์ดแวร์แบบเปิด (Open Source Hardware) และการประยุกต์ใช้งานจริง
สรุป: เหตุการณ์ล่าสุดในกรุงเทพฯ — งาน Maker Revival 2025 และรายงานจากสมาคมเมกเกอร์กรุงเทพ เป็นสัญญาณชัดเจนว่ากลุ่มผู้สร้างกำลังกลับมาคึกคัก บริษัทนวัตกรรมและนักลงทุนเริ่มจับตาโอกาสเชิงพาณิชย์จากคลื่นผู้สร้างรุ่นใหม่ ขณะที่คำถามเรื่องการออกใบอนุญาตและมาตรฐานความปลอดภัยยังคงต้องมีการประสานทั้งในระดับชุมชนและนโยบายสาธารณะต่อไป
